top of page
Search
Writer's pictureMiss kaew

การเตรียมงานแต่งงานด้วยตัวเอง

Updated: Nov 11, 2020

เราจัดการงานแต่งงานเองทั้งหมด เลยอยากบันทึกไว้ เผื่อใครกำลังศึกษาอยู่ เราขอแบ่งเป็นข้อๆ ตามนี้


  • เลือกวันแต่งงาน เป็นสิ่งแรกที่เราต้องทำก่อนเลย เราเลือกวันตามสะดวก อยากให้เป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อน เพราะปักธงไว้แล้วว่าจะจัดแบบ Outdoor


  • นับจำนวนแขก (คร่าวๆ) การนับจำนวนแขกคร่าวๆ จะช่วยเราในการจัดหาสถานที่ในการแต่งงานได้เหมาะสมกับจำนวนแขกค่ะ ไม่ใหญ่เกินไปจนงานกร่อย และไม่เล็กเกินไปจนอึดอัด ของเราตั้งไว้ที่ 100 คน เรากับแฟนแยกกันไปลิสท์รายชื่อแขกของตัวเองที่จะเชิญ เพื่อดูความเป็นไปได้ว่า แขกกี่คน แล้วค่อยเริ่มสเตปต่อไป


  • งบประมาณ เราควรต้องตั้งงบไว้คร่าวๆ ว่าเรากำหนดไว้ประมาณเท่าไหร่ เพื่อสามารถคำนวณเรื่องอื่นๆได้ เพราะถ้าเราไม่ควบคุมงบแต่แรก บานปลายแน่นอน (ขนาดเราควบคุมก็ยังเกินไปหลายหมื่นเหมือนกัน) หลังจากกำหนดงบแล้ว เราจะทำไฟล์บันทึกไว้ว่า ใช้จ่ายรายการไหนไปเท่าไหร่ เช่น ค่าชุดแต่งงาน ค่าสถานที่ ค่าตากล้อง ค่าพรีเวดดิ้ง ค่าอาหาร ค่าแหวน เป็นต้น เพื่อเราจะได้มีข้อมูลว่าตอนนี้จ่ายไปเท่าไหร่ เหลืออะไร และช่วยให้เราควบคุมการใช้จ่ายได้


  • สถานที่ เราเลือกสถานที่ก่อน เพราะเราค่อนข้างเน้นเรื่องนี้ โจทย์เราคือ ไม่โรงแรม ไม่ร้อน อาหารอร่อย อยู่ในตัวเมือง เดินทางสะดวก มีโรงแรมใกล้ที่จัดงาน แล้วเราก็เริ่มหาข้อมูลคร่าวๆ เพื่อสำรวจราคา เลือกที่ชอบ แล้วตระเวนไปดูสถานที่จริง เราไปดูมา 3 ที่

- Mellow Garden ตอนแรกดูจากในเว็บยังไงก็จะเอาที่นี่ ไม่มองที่อื่นเลย แต่พอไปดูสถานที่จริงแล้ว บวกกับหลายๆอย่าง เราไม่ประทับใจเท่าไหร่ เลยตัดออก

- 99 Rest Backyard Cafe https://www.facebook.com/99restbackyardcafe/ ที่นี่คือมาแล้ว ชอบเลย เห็นปุ๊บ ชอบเลย ที่นี่รองรับแขกได้ 70-120 คน กำลังดี สำหรับเรา

- Subdio Garden ที่นี่เราก็ชอบนะ แต่ติดที่ว่าออกจะใหญ่ไปหน่อย สำหรับแขก 100 คน เพราะเค้าสามารถรองรับได้ถึง 250 คน เรากลัวว่างานจะกร่อย เลยตัดออก (อีกอย่าง เพราะชอบ 99 ไปเรียบร้อยแล้วด้วย)

บางทีก็เชื่อนะว่าสถานที่เป็นคนเลือกเราเหมือนกัน ทุกอย่างมันลงตัวกับโจทย์ที่วางไว้ สรุป เราตกลงเลือก 99 Rest Backyard Cafe ชนะขาดลอย :) และด้วยความที่ทางร้านเป็นร้านอาหารฟิวชั่นอยู่แล้ว แถมมีเชฟเอียนช่วยรังสรรค์เมนูให้กับที่นี่ เราเลยค่อนข้างมั่นใจว่าแขกต้องชอบ เพราะเรากับแฟนให้ความสำคัญเรื่องอาหารเป็นหลัก ต้องอิ่ม และรสชาติอร่อย

อีกอย่างมาพร้อมกับสถานที่ คือ ทีม Organize ตกแต่งสถานที่ค่ะ กรณีที่จัดโรงแรมบางแห่งอาจมีแพคเกจให้พร้อมตกแต่งแล้ว แต่ของเราไม่มีค่ะ ทางร้านมีแนะนำทีมมาให้บ้าง และเราก็หาข้อมูลเพิ่มเองด้วย เราเปรียบเทียบอยู่ 3-4 เจ้า ดูทั้งราคาและสไตล์การจัดงาน มาตกลงปลงใจกับทีมนี้เลยค่ะ ทั้งราคาและคุณภาพงาน

Glasshouse Studio: https://www.facebook.com/glasshouse.st/ แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ผลงานออกมาตามแบบที่เราอยากได้ทุกอย่างเลยค่ะ งานน่ารักมากๆ ค่ะ


บรรยากาศในงานค่ะ

บรรยากาศในงานค่ะ

  • การ์ดเชิญ ด้วยความตั้งใจอยากให้งานอบอุ่น มีแต่เพื่อนสนิท เราเลยไม่เชิญเพื่อนพ่อแม่เลยยยย 555 ดีใจมากที่ตรงนี้เค้าโอเคกับเรา เพราะนี่งานเรา เราก็อยากโฟกัสกับเพื่อนเราที่มาร่วมยินดีกับเรามากกว่า ไม่ใช่ยกมือไหว้ใครก็ไม่รู้ทั่วงาน พอตั้งใจว่าจะเชิญแค่เพื่อนๆ การ์ดเชิญเลยถูกออกแบบง่ายๆ โดยฝีมือเราและแฟน 555 ออกแบบกันเอง แล้วโหวตว่าจะใช้ของใคร แน่นอนค่ะ ว่าเราชนะโหวต เราตั้งใจทำเป็น E-Card เพราะทุกงานที่เราเคยได้การ์ด เราก็ทิ้งหมด ไม่เคยเก็บ เลยสรุปเป็น E-Card สะดวกและเหมาะกับเรามากกว่า เราใช้แอป Canva ออกแบบบนมือถือเลย ง่ายมากๆ เผื่อใครสนใจลองดูนะคะ

> Play Store: https://play.google.com/store/apps/details?id=com.canva.editor&hl=en_US

> App Store: https://itunes.apple.com/us/app/canva-graphic-design-creator/id897446215?mt=8

เราเริ่มแจกการ์ด (ทางไลน์) เป็นทางการประมาณ 1 เดือนก่อนวันงานค่ะ เพื่อให้เพื่อนไม่ลืมวัน 555 แต่จริงๆ เราเริ่มบอกล่วงหน้าไปหลายเดือน เพราะเราจัดงานปลายปี ส่วนใหญ่เพื่อนเราจะมีทริปกัน ไม่ค่อยว่าง เลยต้องจองคิวกันไว้เนิ่นๆ ค่ะ แต่ละคนคิวทองงงงง

ตัวอย่างการ์ดเชิญที่เราออกแบบเอง

ตัวอย่างการ์ดเชิญที่เราออกแบบเอง

  • ช่างแต่งหน้า ยอมรับเลยค่ะว่าเราไม่เคยคิดว่าราคาช่างแต่งหน้าเจ้าสาวจะแรงขนาดนี้ 555 ด้วยความที่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มาก่อน พอรู้เรทราคา เลยต้องมาวางแผนใหม่อีกที เรทที่เราจำกัดไว้เลยออกมาอยู่ที่ 8000 - 12000 บาท ถ้าช่างชั้นนำนี่คือราคาเหงื่อตกเลยค่ะ แต่ก็เข้าใจได้เนอะ กว่าจะฝึกฝนจนฝีมือระดับนี้ก็ต้องใช้หลายๆ อย่าง คสอ.ที่ใช้ก็ราคาสูงแล้วค่ะ เราเปรียบเทียบราคากับผลงานอยู่หลายเจ้าเหมือนกันค่ะ ช่างที่เราใช้แต่งหน้าอยู่ในขั้นโอเคนะคะ แต่ทำผมไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ เพราะผมเรายาวและเยอะมากๆ เอาเป็นว่าใครสนใจสอบถามได้ค่ะ ปล.ช่างแต่งหน้าต้องรีบจองคิวนะคะ เพราะเค้าจองคิวกันล่วงหน้านานมากๆ ช่างคิวทอง ช่างแต่งหน้าเราเลือกเจ้านี้ : https://instagram.com/patchaiboom?igshid=4q473lcki4ou




  • ชุดแต่งงาน ตอนแรกเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับชุดแต่งงานมากเท่าไหร่ เอาแค่ใส่แล้วดูไม่อ้วนมากก็โอเคแล้ว 555 เราเลยจองแพคเกจของร้านแบมบี้ https://www.facebook.com/bambi4u/ พอดีช่วงนั้นเค้ามีโปร 4 ชุด 15000 เลือกได้ทั้งร้าน ก็เข้าทางเราเลยค่ะ ราคาได้ ชุดก็โอเค เลยตั้งใจว่าเซ็ตชุดสากลไว้ถ่ายพรี อีกเซ็ตชุดไทยไว้ใส่วันงาน ทุกอย่างเกือบจะลงตัว แต่ด้วยความที่เรามีเวลาเตรียมงานค่อนข้างนาน (8 เดือน) ก็เริ่มมีความอยากได้นู่น อยากได้นี่เพิ่มมาอยู่ตลอด 555 ไม่ดีเลยเนอะ อ่อ ลืมบอกไป งานเราจัดเช้าเลี้ยงเที่ยงนะคะ (จริงๆ ชุดเดียวก็จบได้) แต่ก็แต่งครั้งเดียว เลยตัดสินใจหาชุดขาวเพิ่มอีก 1 ชุด ใช้วันงาน ก่อนถึงงานประมาณ 3 เดือน เราเลือกชุดขาวจากร้าน thee-si couture ค่ะ https://www.facebook.com/theesicouture/ จริงๆ เราไม่เคยเห็นรีวิวร้านนี้มาก่อนเลย แต่เพราะต้องนั่งรถผ่านร้านไปทำงานทุกวัน ก็มองชุดเค้าทุกวัน จนวันนึงเราเห็นชุดแบบที่เราชอบ คือเป็นชุดคล้ายกับที่เราเจอใน pinterest แล้วอยากได้แบบนี้มาก มาแขวนอยู่หน้าร้านก็ติดต่อร้านไปเลยค่ะ พอทราบราคาคร่าวๆ ก็กลับมาคิดอยู่นาน เพราะราคาสูงกว่า 4 ชุดที่เช่าก่อนหน้านี้อีก 555 แต่แฟนก็บอกว่าไปลองดู ถ้าชอบก็เอาเลย ไม่ต้องคิดมาก เนี่ยย นางชอบสปอย พอไปลองก็ตาวาวเลยค่ะ มันเห้ย มันโอเคมากๆ เรารู้สึกมั่นใจ รู้สึกว่ามันต้องเป็นชุดนี้เลยอ่ะ เว่อร์ไหม แต่เป็นแบบนั้นจริงๆ ช่างบอกว่า ชุดนี้ออกแบบค้างไว้นานแล้ว ยังไม่มีเวลาทำ เพิ่งจะเย็บเสร็จไม่นาน แล้วเราก็เป็นคนแรกที่ได้ลองชุดนี้ ช่างบอกเราว่าบางทีชุดก็เลือกคนใส่ของเค้าเองเหมือนกันนะ ลองแล้วก็เอาเลยค่ะ คิดไม่ผิดจริงๆ เพราะเพื่อนเราหลายๆ คนก็บอกว่าชุดนี้มันคือมึงจริงๆเนอะ



  • ทีมถ่ายพรีเวดดิ้ง เราเลือกอยู่หลายเจ้าเลย เพราะรูปเราตั้งใจจะใช้ตกแต่งในงานด้วย สรุปเราเลือกทีม Whenever love: https://www.facebook.com/Wheneverlovephotography/ ค่ะ แนะนำทีมนี้เพราะมีทุกอย่างให้ในเจ้าเดียว เราเลือกแพคถ่าย Outdoor ค่ะ ทีมงานมีรถรับส่ง พร้อมช่างแต่งหน้าดูแลตลอดวัน ช่างแต่งหน้าแต่งละเอียดมากค่ะ เปลี่ยนทรงผมให้ทุกชุด ประทับใจมาก ตากล้องก็แนะนำดีค่ะ เป็นกันเอง แรกๆ ก็เขินอยู่ หลังๆ ก็ยังเขินนะ แต่รู้มุมมากขึ้น เรียกว่ายิ้มกันจนเมื่อยหน้ากันเลยทีเดียว ถ้าให้แนะนำลองถ่ายแบบ Indoor/Studio ก็ดีค่ะ เพราะเราเหนื่อยมากกกกกก กไก่ล้านตัว 555 แต่เราเลือก Outdoor เพราะคู่เราแอคไม่เก่ง ยิ้มเป็นอย่างเดียว การมีวิวและบรรยากาศที่แตกต่างก็ช่วยให้รูปดูไม่น่าเบื่อเนอะ ส่วนถ้าใครสายเดียวกับเราขอแนะนำให้เลือกถ่ายกับชุดหลักก่อนเลยค่ะ เพราะตอนแรกเรายังไม่เหนื่อย รอยยิ้มยังไม่ช้ำ 555

ธรรมชาติมากๆๆ
  • ทีมถ่ายวันงาน เราเลือกทีม Intro Production https://www.facebook.com/IntroProductionX/ เพราะเป็นญาติเราเอง 555 คุณภาพไม่ต้องพูดเยอะค่ะ มั่นใจได้เลย เพราะตากล้องญาติเราผ่านงานแต่งดารามาเยอะ ติดแค่ว่าพอมาถ่ายเรา นางก็จะบ่นๆหน่อยว่างานเคยง่ายกว่านี้ 555 คือเราโพสไม่เก่งเลย ยิ้มเป็นอย่างเดียว ตอนนางถ่ายดาราจะถ่ายมุมไหนก็สวยงี้แหละ 555 แต่ภาพออกมาสวยมากค่ะ เพื่อนเราหลายคนชอบ และติดต่อไปถ่ายงานหลายคนเหมือนกัน พอละ ไม่ขายเยอะ 555 ปล. เรื่องตากล้องทั้งถ่ายพรีและถ่ายวันงานขึ้นกับความชอบของแต่ละคนเป็นหลักเลยนะคะ ช่างแต่ละคนก็จะมีมูดแอนด์โทนที่ต่างกันไป ใครทางเดียวกับเราคือ 2 ทีมนี้ไม่ผิดหวังค่ะ





  • ของชำร่วย เราเลือกที่สามารถใช้งานได้จริงค่ะ ตัวเลือกเยอะมากที่จตุจักร มีหลายราคาเลย อันนี้แล้วแต่สะดวก เราเลือกร้านสวนกุหลาบ ตลาดนัดจตุจักร โครงการ 15 ซอย 10/2 ค่ะ นอกจากของชำร่วยที่นี่มีของรับไหว้ ข้อมือเพื่อนเจ้าสาว พินปักอก การ์ดเชิญ ทีครบเลย แบบก็โอเค ราคาดีค่ะ

  • ชุดขันหมาก เราใช้บริการเช่าของ บ้านต้นคูณ https://www.facebook.com/Bantonkun/ ราคากันเอง ชุดขันหมากที่ให้เช่าก็คุณภาพด้วย แนะนำเลยค่ะ


  • สมุดอวยพร จริงๆ เราคิดไว้หลายรูปแบบ แล้วเราก็เจอแบบที่อยากได้ จากร้าน better half wedding crafts https://www.facebook.com/BetterHalfWeddingCrafts/ ส่งตรงจากเชียงใหม่เลย 555 เราชอบเพราะ มันเป็นทั้ง Photo book + Guest Book ไปในตัว รูปตอนถ่ายพรีได้มาเยอะมาก 400 กว่ารูป ก็ไม่รู้จะเอามาทำอะไร เลยเก็บไว้ในเล่มทั้งรูปและข้อความพร้อมกัน ตอบโจทย์เราค่ะ


  • เพลงแต่งงาน อันนี้เป็นความภูมิใจส่วนตัว อยากแชร์ค่ะ 555 https://www.youtube.com/playlist?list=PLqx9BKd3iXbHhX3BFAMkbghXMam40ctGJ


  • ของแถม เป็นไฟล์ที่ช่วยเราจัดการงานแต่งให้ง่ายขึ้น เราได้ไฟล์มาจากเพจ Wedding Campus บันทึกไม่ลับของว่าที่เจ้าสาว https://www.facebook.com/weddingcampus/ ช่วยเราได้เยอะมากจริงๆค่ะ

Wedding Checklist https://goo.gl/ql7cfG --------------- Wedding Budget https://goo.gl/c2oNwE วิธีใช้ ให้กรอกตรง B2 - B5 นะคะ และใส่ % ของเรื่องที่จะเป็น Priority ใน B8-B23 ค่ะ แล้วเดี๋ยวมันจะคำนวนออกมาให้ว่าแต่ละส่วนมีเงินก้อนที่ใช้ได้เท่าไหร่ ก้อน Budget รวมจะอยู่ช่อง H4 บน pie chart ค่ะ --------------- Script พิธีกรงานแต่ง https://goo.gl/nfkryz ไฟล์ script พิธีกรงานแต่งมาให้แล้วนะคะ ลองเอาไปแก้ๆขีดๆเขียนๆให้เข้ากับ style และ sequence ของงานตัวเองดูน๊าคะ 📷 --------------- Wedding Sequence https://goo.gl/2rH2bX บางหัวข้ออาจจะไม่สำคัญตัดทิ้งโลดได้เลยค่า 📷 --------------- File เตรียมชื่อแขกมางานแต่งงาน https://goo.gl/5E8hGN นัทแนบไฟล์มาให้เรียบร้อยแล้วนะคะ จริงๆเป็น template เรียบๆเลย ลองเอาไปปรับใช้ดูนะคะ เนื้อหาหลักๆนัทว่าใช้ด้วยกันได้อยู่ค่ะ แต่ถ้าอยากเพิ่มอะไรเข้าไปก็เพิ่มโลดเลย --------------- วิธีพิมพ์ซอง https://goo.gl/wsEbsi วิธีใช้ก็ตามที่เขียนไว้ใน page เลยค่ะ ไม่ยากๆๆ แต่ถ้าใช้ไม่ได้ยังไงบอกนัทละกันน๊า เดี๋ยวนัทถามคุณลุงอีกต่อให้ 555 📷 --------------- Wedding Songs https://goo.gl/vyMLvr นัทส่ง link เป็น google drive มาให้เรียบร้อยแล้วนะคะ ลองเลือกๆจิ้มฟังดูก่อนก็ได้น๊า ชอบเพลงไหนก็กด download ได้เลยค่ะ 📷 นอกจากเพลงสำหรับงานกลางคืนแล้ว นัทมีไฟล์เพลงบรรเลงไทยๆไว้เปิดงานพิธีไทยตอนเช้าอยู่ใน list ด้วยน๊า เผื่อกำลังหาอยู่ค่ะ 📷


อีกเพจที่อยากให้ว่าที่เจ้าสาวได้ติดตามคือ Niyadar WeddingAnswer https://www.facebook.com/niyadarweddinganswer/ ค่ะ พี่เค้าจะมีเทคนิคดีๆมาแนะนำ #เชื่อพี่แล้วดีเอง จริงๆค่ะ


1,697 views0 comments

Kommentit


Post: Blog2_Post
bottom of page