เราจัดการงานแต่งงานเองทั้งหมด เลยอยากบันทึกไว้ เผื่อใครกำลังศึกษาอยู่ เราขอแบ่งเป็นข้อๆ ตามนี้
เลือกวันแต่งงาน เป็นสิ่งแรกที่เราต้องทำก่อนเลย เราเลือกวันตามสะดวก อยากให้เป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อน เพราะปักธงไว้แล้วว่าจะจัดแบบ Outdoor
นับจำนวนแขก (คร่าวๆ) การนับจำนวนแขกคร่าวๆ จะช่วยเราในการจัดหาสถานที่ในการแต่งงานได้เหมาะสมกับจำนวนแขกค่ะ ไม่ใหญ่เกินไปจนงานกร่อย และไม่เล็กเกินไปจนอึดอัด ของเราตั้งไว้ที่ 100 คน เรากับแฟนแยกกันไปลิสท์รายชื่อแขกของตัวเองที่จะเชิญ เพื่อดูความเป็นไปได้ว่า แขกกี่คน แล้วค่อยเริ่มสเตปต่อไป
งบประมาณ เราควรต้องตั้งงบไว้คร่าวๆ ว่าเรากำหนดไว้ประมาณเท่าไหร่ เพื่อสามารถคำนวณเรื่องอื่นๆได้ เพราะถ้าเราไม่ควบคุมงบแต่แรก บานปลายแน่นอน (ขนาดเราควบคุมก็ยังเกินไปหลายหมื่นเหมือนกัน) หลังจากกำหนดงบแล้ว เราจะทำไฟล์บันทึกไว้ว่า ใช้จ่ายรายการไหนไปเท่าไหร่ เช่น ค่าชุดแต่งงาน ค่าสถานที่ ค่าตากล้อง ค่าพรีเวดดิ้ง ค่าอาหาร ค่าแหวน เป็นต้น เพื่อเราจะได้มีข้อมูลว่าตอนนี้จ่ายไปเท่าไหร่ เหลืออะไร และช่วยให้เราควบคุมการใช้จ่ายได้
สถานที่ เราเลือกสถานที่ก่อน เพราะเราค่อนข้างเน้นเรื่องนี้ โจทย์เราคือ ไม่โรงแรม ไม่ร้อน อาหารอร่อย อยู่ในตัวเมือง เดินทางสะดวก มีโรงแรมใกล้ที่จัดงาน แล้วเราก็เริ่มหาข้อมูลคร่าวๆ เพื่อสำรวจราคา เลือกที่ชอบ แล้วตระเวนไปดูสถานที่จริง เราไปดูมา 3 ที่
- Mellow Garden ตอนแรกดูจากในเว็บยังไงก็จะเอาที่นี่ ไม่มองที่อื่นเลย แต่พอไปดูสถานที่จริงแล้ว บวกกับหลายๆอย่าง เราไม่ประทับใจเท่าไหร่ เลยตัดออก
- 99 Rest Backyard Cafe https://www.facebook.com/99restbackyardcafe/ ที่นี่คือมาแล้ว ชอบเลย เห็นปุ๊บ ชอบเลย ที่นี่รองรับแขกได้ 70-120 คน กำลังดี สำหรับเรา
- Subdio Garden ที่นี่เราก็ชอบนะ แต่ติดที่ว่าออกจะใหญ่ไปหน่อย สำหรับแขก 100 คน เพราะเค้าสามารถรองรับได้ถึง 250 คน เรากลัวว่างานจะกร่อย เลยตัดออก (อีกอย่าง เพราะชอบ 99 ไปเรียบร้อยแล้วด้วย)
บางทีก็เชื่อนะว่าสถานที่เป็นคนเลือกเราเหมือนกัน ทุกอย่างมันลงตัวกับโจทย์ที่วางไว้ สรุป เราตกลงเลือก 99 Rest Backyard Cafe ชนะขาดลอย :) และด้วยความที่ทางร้านเป็นร้านอาหารฟิวชั่นอยู่แล้ว แถมมีเชฟเอียนช่วยรังสรรค์เมนูให้กับที่นี่ เราเลยค่อนข้างมั่นใจว่าแขกต้องชอบ เพราะเรากับแฟนให้ความสำคัญเรื่องอาหารเป็นหลัก ต้องอิ่ม และรสชาติอร่อย
อีกอย่างมาพร้อมกับสถานที่ คือ ทีม Organize ตกแต่งสถานที่ค่ะ กรณีที่จัดโรงแรมบางแห่งอาจมีแพคเกจให้พร้อมตกแต่งแล้ว แต่ของเราไม่มีค่ะ ทางร้านมีแนะนำทีมมาให้บ้าง และเราก็หาข้อมูลเพิ่มเองด้วย เราเปรียบเทียบอยู่ 3-4 เจ้า ดูทั้งราคาและสไตล์การจัดงาน มาตกลงปลงใจกับทีมนี้เลยค่ะ ทั้งราคาและคุณภาพงาน
Glasshouse Studio: https://www.facebook.com/glasshouse.st/ แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ผลงานออกมาตามแบบที่เราอยากได้ทุกอย่างเลยค่ะ งานน่ารักมากๆ ค่ะ
การ์ดเชิญ ด้วยความตั้งใจอยากให้งานอบอุ่น มีแต่เพื่อนสนิท เราเลยไม่เชิญเพื่อนพ่อแม่เลยยยย 555 ดีใจมากที่ตรงนี้เค้าโอเคกับเรา เพราะนี่งานเรา เราก็อยากโฟกัสกับเพื่อนเราที่มาร่วมยินดีกับเรามากกว่า ไม่ใช่ยกมือไหว้ใครก็ไม่รู้ทั่วงาน พอตั้งใจว่าจะเชิญแค่เพื่อนๆ การ์ดเชิญเลยถูกออกแบบง่ายๆ โดยฝีมือเราและแฟน 555 ออกแบบกันเอง แล้วโหวตว่าจะใช้ของใคร แน่นอนค่ะ ว่าเราชนะโหวต เราตั้งใจทำเป็น E-Card เพราะทุกงานที่เราเคยได้การ์ด เราก็ทิ้งหมด ไม่เคยเก็บ เลยสรุปเป็น E-Card สะดวกและเหมาะกับเรามากกว่า เราใช้แอป Canva ออกแบบบนมือถือเลย ง่ายมากๆ เผื่อใครสนใจลองดูนะคะ
> Play Store: https://play.google.com/store/apps/details?id=com.canva.editor&hl=en_US
> App Store: https://itunes.apple.com/us/app/canva-graphic-design-creator/id897446215?mt=8
เราเริ่มแจกการ์ด (ทางไลน์) เป็นทางการประมาณ 1 เดือนก่อนวันงานค่ะ เพื่อให้เพื่อนไม่ลืมวัน 555 แต่จริงๆ เราเริ่มบอกล่วงหน้าไปหลายเดือน เพราะเราจัดงานปลายปี ส่วนใหญ่เพื่อนเราจะมีทริปกัน ไม่ค่อยว่าง เลยต้องจองคิวกันไว้เนิ่นๆ ค่ะ แต่ละคนคิวทองงงงง
ช่างแต่งหน้า ยอมรับเลยค่ะว่าเราไม่เคยคิดว่าราคาช่างแต่งหน้าเจ้าสาวจะแรงขนาดนี้ 555 ด้วยความที่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มาก่อน พอรู้เรทราคา เลยต้องมาวางแผนใหม่อีกที เรทที่เราจำกัดไว้เลยออกมาอยู่ที่ 8000 - 12000 บาท ถ้าช่างชั้นนำนี่คือราคาเหงื่อตกเลยค่ะ แต่ก็เข้าใจได้เนอะ กว่าจะฝึกฝนจนฝีมือระดับนี้ก็ต้องใช้หลายๆ อย่าง คสอ.ที่ใช้ก็ราคาสูงแล้วค่ะ เราเปรียบเทียบราคากับผลงานอยู่หลายเจ้าเหมือนกันค่ะ ช่างที่เราใช้แต่งหน้าอยู่ในขั้นโอเคนะคะ แต่ทำผมไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ เพราะผมเรายาวและเยอะมากๆ เอาเป็นว่าใครสนใจสอบถามได้ค่ะ ปล.ช่างแต่งหน้าต้องรีบจองคิวนะคะ เพราะเค้าจองคิวกันล่วงหน้านานมากๆ ช่างคิวทอง ช่างแต่งหน้าเราเลือกเจ้านี้ : https://instagram.com/patchaiboom?igshid=4q473lcki4ou
ชุดแต่งงาน ตอนแรกเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับชุดแต่งงานมากเท่าไหร่ เอาแค่ใส่แล้วดูไม่อ้วนมากก็โอเคแล้ว 555 เราเลยจองแพคเกจของร้านแบมบี้ https://www.facebook.com/bambi4u/ พอดีช่วงนั้นเค้ามีโปร 4 ชุด 15000 เลือกได้ทั้งร้าน ก็เข้าทางเราเลยค่ะ ราคาได้ ชุดก็โอเค เลยตั้งใจว่าเซ็ตชุดสากลไว้ถ่ายพรี อีกเซ็ตชุดไทยไว้ใส่วันงาน ทุกอย่างเกือบจะลงตัว แต่ด้วยความที่เรามีเวลาเตรียมงานค่อนข้างนาน (8 เดือน) ก็เริ่มมีความอยากได้นู่น อยากได้นี่เพิ่มมาอยู่ตลอด 555 ไม่ดีเลยเนอะ อ่อ ลืมบอกไป งานเราจัดเช้าเลี้ยงเที่ยงนะคะ (จริงๆ ชุดเดียวก็จบได้) แต่ก็แต่งครั้งเดียว เลยตัดสินใจหาชุดขาวเพิ่มอีก 1 ชุด ใช้วันงาน ก่อนถึงงานประมาณ 3 เดือน เราเลือกชุดขาวจากร้าน thee-si couture ค่ะ https://www.facebook.com/theesicouture/ จริงๆ เราไม่เคยเห็นรีวิวร้านนี้มาก่อนเลย แต่เพราะต้องนั่งรถผ่านร้านไปทำงานทุกวัน ก็มองชุดเค้าทุกวัน จนวันนึงเราเห็นชุดแบบที่เราชอบ คือเป็นชุดคล้ายกับที่เราเจอใน pinterest แล้วอยากได้แบบนี้มาก มาแขวนอยู่หน้าร้านก็ติดต่อร้านไปเลยค่ะ พอทราบราคาคร่าวๆ ก็กลับมาคิดอยู่นาน เพราะราคาสูงกว่า 4 ชุดที่เช่าก่อนหน้านี้อีก 555 แต่แฟนก็บอกว่าไปลองดู ถ้าชอบก็เอาเลย ไม่ต้องคิดมาก เนี่ยย นางชอบสปอย พอไปลองก็ตาวาวเลยค่ะ มันเห้ย มันโอเคมากๆ เรารู้สึกมั่นใจ รู้สึกว่ามันต้องเป็นชุดนี้เลยอ่ะ เว่อร์ไหม แต่เป็นแบบนั้นจริงๆ ช่างบอกว่า ชุดนี้ออกแบบค้างไว้นานแล้ว ยังไม่มีเวลาทำ เพิ่งจะเย็บเสร็จไม่นาน แล้วเราก็เป็นคนแรกที่ได้ลองชุดนี้ ช่างบอกเราว่าบางทีชุดก็เลือกคนใส่ของเค้าเองเหมือนกันนะ ลองแล้วก็เอาเลยค่ะ คิดไม่ผิดจริงๆ เพราะเพื่อนเราหลายๆ คนก็บอกว่าชุดนี้มันคือมึงจริงๆเนอะ
ทีมถ่ายพรีเวดดิ้ง เราเลือกอยู่หลายเจ้าเลย เพราะรูปเราตั้งใจจะใช้ตกแต่งในงานด้วย สรุปเราเลือกทีม Whenever love: https://www.facebook.com/Wheneverlovephotography/ ค่ะ แนะนำทีมนี้เพราะมีทุกอย่างให้ในเจ้าเดียว เราเลือกแพคถ่าย Outdoor ค่ะ ทีมงานมีรถรับส่ง พร้อมช่างแต่งหน้าดูแลตลอดวัน ช่างแต่งหน้าแต่งละเอียดมากค่ะ เปลี่ยนทรงผมให้ทุกชุด ประทับใจมาก ตากล้องก็แนะนำดีค่ะ เป็นกันเอง แรกๆ ก็เขินอยู่ หลังๆ ก็ยังเขินนะ แต่รู้มุมมากขึ้น เรียกว่ายิ้มกันจนเมื่อยหน้ากันเลยทีเดียว ถ้าให้แนะนำลองถ่ายแบบ Indoor/Studio ก็ดีค่ะ เพราะเราเหนื่อยมากกกกกก กไก่ล้านตัว 555 แต่เราเลือก Outdoor เพราะคู่เราแอคไม่เก่ง ยิ้มเป็นอย่างเดียว การมีวิวและบรรยากาศที่แตกต่างก็ช่วยให้รูปดูไม่น่าเบื่อเนอะ ส่วนถ้าใครสายเดียวกับเราขอแนะนำให้เลือกถ่ายกับชุดหลักก่อนเลยค่ะ เพราะตอนแรกเรายังไม่เหนื่อย รอยยิ้มยังไม่ช้ำ 555
ทีมถ่ายวันงาน เราเลือกทีม Intro Production https://www.facebook.com/IntroProductionX/ เพราะเป็นญาติเราเอง 555 คุณภาพไม่ต้องพูดเยอะค่ะ มั่นใจได้เลย เพราะตากล้องญาติเราผ่านงานแต่งดารามาเยอะ ติดแค่ว่าพอมาถ่ายเรา นางก็จะบ่นๆหน่อยว่างานเคยง่ายกว่านี้ 555 คือเราโพสไม่เก่งเลย ยิ้มเป็นอย่างเดียว ตอนนางถ่ายดาราจะถ่ายมุมไหนก็สวยงี้แหละ 555 แต่ภาพออกมาสวยมากค่ะ เพื่อนเราหลายคนชอบ และติดต่อไปถ่ายงานหลายคนเหมือนกัน พอละ ไม่ขายเยอะ 555 ปล. เรื่องตากล้องทั้งถ่ายพรีและถ่ายวันงานขึ้นกับความชอบของแต่ละคนเป็นหลักเลยนะคะ ช่างแต่ละคนก็จะมีมูดแอนด์โทนที่ต่างกันไป ใครทางเดียวกับเราคือ 2 ทีมนี้ไม่ผิดหวังค่ะ
ของชำร่วย เราเลือกที่สามารถใช้งานได้จริงค่ะ ตัวเลือกเยอะมากที่จตุจักร มีหลายราคาเลย อันนี้แล้วแต่สะดวก เราเลือกร้านสวนกุหลาบ ตลาดนัดจตุจักร โครงการ 15 ซอย 10/2 ค่ะ นอกจากของชำร่วยที่นี่มีของรับไหว้ ข้อมือเพื่อนเจ้าสาว พินปักอก การ์ดเชิญ ทีครบเลย แบบก็โอเค ราคาดีค่ะ
ชุดขันหมาก เราใช้บริการเช่าของ บ้านต้นคูณ https://www.facebook.com/Bantonkun/ ราคากันเอง ชุดขันหมากที่ให้เช่าก็คุณภาพด้วย แนะนำเลยค่ะ
สมุดอวยพร จริงๆ เราคิดไว้หลายรูปแบบ แล้วเราก็เจอแบบที่อยากได้ จากร้าน better half wedding crafts https://www.facebook.com/BetterHalfWeddingCrafts/ ส่งตรงจากเชียงใหม่เลย 555 เราชอบเพราะ มันเป็นทั้ง Photo book + Guest Book ไปในตัว รูปตอนถ่ายพรีได้มาเยอะมาก 400 กว่ารูป ก็ไม่รู้จะเอามาทำอะไร เลยเก็บไว้ในเล่มทั้งรูปและข้อความพร้อมกัน ตอบโจทย์เราค่ะ
เพลงแต่งงาน อันนี้เป็นความภูมิใจส่วนตัว อยากแชร์ค่ะ 555 https://www.youtube.com/playlist?list=PLqx9BKd3iXbHhX3BFAMkbghXMam40ctGJ
ของแถม เป็นไฟล์ที่ช่วยเราจัดการงานแต่งให้ง่ายขึ้น เราได้ไฟล์มาจากเพจ Wedding Campus บันทึกไม่ลับของว่าที่เจ้าสาว https://www.facebook.com/weddingcampus/ ช่วยเราได้เยอะมากจริงๆค่ะ
Wedding Checklist https://goo.gl/ql7cfG --------------- Wedding Budget https://goo.gl/c2oNwE วิธีใช้ ให้กรอกตรง B2 - B5 นะคะ และใส่ % ของเรื่องที่จะเป็น Priority ใน B8-B23 ค่ะ แล้วเดี๋ยวมันจะคำนวนออกมาให้ว่าแต่ละส่วนมีเงินก้อนที่ใช้ได้เท่าไหร่ ก้อน Budget รวมจะอยู่ช่อง H4 บน pie chart ค่ะ --------------- Script พิธีกรงานแต่ง https://goo.gl/nfkryz ไฟล์ script พิธีกรงานแต่งมาให้แล้วนะคะ ลองเอาไปแก้ๆขีดๆเขียนๆให้เข้ากับ style และ sequence ของงานตัวเองดูน๊าคะ 📷 --------------- Wedding Sequence https://goo.gl/2rH2bX บางหัวข้ออาจจะไม่สำคัญตัดทิ้งโลดได้เลยค่า 📷 --------------- File เตรียมชื่อแขกมางานแต่งงาน https://goo.gl/5E8hGN นัทแนบไฟล์มาให้เรียบร้อยแล้วนะคะ จริงๆเป็น template เรียบๆเลย ลองเอาไปปรับใช้ดูนะคะ เนื้อหาหลักๆนัทว่าใช้ด้วยกันได้อยู่ค่ะ แต่ถ้าอยากเพิ่มอะไรเข้าไปก็เพิ่มโลดเลย --------------- วิธีพิมพ์ซอง https://goo.gl/wsEbsi วิธีใช้ก็ตามที่เขียนไว้ใน page เลยค่ะ ไม่ยากๆๆ แต่ถ้าใช้ไม่ได้ยังไงบอกนัทละกันน๊า เดี๋ยวนัทถามคุณลุงอีกต่อให้ 555 📷 --------------- Wedding Songs https://goo.gl/vyMLvr นัทส่ง link เป็น google drive มาให้เรียบร้อยแล้วนะคะ ลองเลือกๆจิ้มฟังดูก่อนก็ได้น๊า ชอบเพลงไหนก็กด download ได้เลยค่ะ 📷 นอกจากเพลงสำหรับงานกลางคืนแล้ว นัทมีไฟล์เพลงบรรเลงไทยๆไว้เปิดงานพิธีไทยตอนเช้าอยู่ใน list ด้วยน๊า เผื่อกำลังหาอยู่ค่ะ 📷
อีกเพจที่อยากให้ว่าที่เจ้าสาวได้ติดตามคือ Niyadar WeddingAnswer https://www.facebook.com/niyadarweddinganswer/ ค่ะ พี่เค้าจะมีเทคนิคดีๆมาแนะนำ #เชื่อพี่แล้วดีเอง จริงๆค่ะ
Kommentit